จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 เดิมที พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของอำเภอตะกั่วป่า จนเมื่อช่วงรัตนโกสินทร์ในสมัยรัชการลที่ 1 ได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองเทียบเท่ากับตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่งและโอนเมืองจากฝ่ายกรมท่ามาขึ้นเป็นฝ่ายกลาโหมตั้งแต่นั้นมา
หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเมืองพังงาได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2352 ซึ่งในปีนั้น พระเจ้าปดุงกษัตริย์พม่า ได้มอบหมายให้ อะเติงหวุ่นเป็นแม่ทัพนำกองทัพเรือของพม่าได้เข้าตีเมืองตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง เมืองถลาง(ในจังหวัดภูเก็ต) ได้กวาดต้อนผู้คนไปรวมไว้ที่ค่ายของตน และเผาเมืองถลางเสีย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเสนานุรักษ์กรมพระราชวังบวร ยกทัพหลวงจากกรุงเทพมหานครมาช่วยและขับไล่ได้ทัน
ช่วงสงครามในขณะนั้นได้มีราษฎรบางส่วนอพยพไปหลบภัยอยู่ที่ "กราภูงา" (ภาษามลายูแปลว่า ป่าน้ำภูงา) ซึ่งตั้งอยู่ปากแม่น้ำพังงา ที่มีภูเขาล้อมรอบ ครั้นเสร็จศึก แล้วกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ทรงพระราชดำริว่า พม่าได้เผาเมืองถลางทำให้บ้านเมืองอ่อนแอลงยากที่จะสร้างขึ้นใหม่ จึงโปรดให้รวบรวมพลเมืองจากถลาง ข้ามฝากมาตั้งภูมิลำเนาที่ตำบลลำน้ำพังงา แขวงเมืองตะกั่วทุ่งและจัดการปกครองเป็นเมืองขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช ดังปรากฏว่ามีหมู่บ้านชื่อ "ถลาง" ซึ่งเป็นผู้คนที่อพยพ จากอำเภอถลาง มาอยู่ในเขตท้องที่อำเภอตะกั่วทุ่งในปัจจุบันต่อมา
สมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระราชดำริที่จะปรับปรุงบูรณะหัวเมืองชายฝั่งตะวันตกที่ถูกพม่าตีให้เข้มแข็งจึงได้แต่งตั้งข้าราชการมาเป็นเจ้าเมืองดังกล่าว โดยให้ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานครและได้ทรงแต่งตั้งให้พระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นคร) เป็นเจ้าเมืองพังงาคนแรก ในปี พ.ศ. 2383 รวมทั้งได้ยุบเมืองตะกั่วทุ่ง เป็นอำเภอขึ้นกับเมืองพังงา
ในช่วงระยะเวลาทั้งหมดนี้เหมืองดีบุกกำลังเฟื่องฟูและเป็นแหล่งแร่ที่ดีที่สุดของประเทศไทย ทำให้เป็นที่ดึงดูดและสนใจ จึงมีต่างชาติติดต่อซื้อขายแร่ดีบุกกันมากและรัฐบาลกลางเองด้วย เนื่องจากให้เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและกลายเป็นช่วงฐานเศรษฐกิจไปทั่วโลกในช่วง ปี พ.ศ. 2473
ในช่วงปีพ.ศ. 2474 ได้มีการรวมตัวยุบเมืองตะกั่วป่าให้ขึ้นกับจังหวัดพังงาเป็นต้นมา อาคารศาลากลางหลังเก่าที่สวยงามที่สุดของจังหวัดพังงาได้สร้างขึ้นที่บ้านชายค่าย ต่อมาในปี พ.ศ. 2473 จึงได้สร้างศาลากลางจังหวัดขึ้นที่บ้านท้ายช้างและต่อมาในปี พ.ศ. 2515 ก็ได้สร้างศาลากลางหลังใหม่ขึ้นบริเวณถ้ำพุงช้างจนถึงปัจจุบัน
**สาเหตุที่เมืองภูงากลายเป็นเมืองพังงานั้น สันนิษฐานกันว่าน่าจะเนื่องมาจากเมืองภูงาเป็นเมืองที่มีแร่อุดมสมบูรณ์ มีฝรั่งมาติดต่อซื้อขายแร่ดีบุกกันมาก และฝรั่งเหล่านี้คงจะ ออกเสียงเมืองภูงาเป็นเมือง "พังงา" ไปเพราะแต่เดิมฝรั่งเขียนชื่อเมืองภูงาว่า PHUNGA หรือ PUNGA ซึ่งอาจอ่านว่า ภูงา, พังงา หรือ พังกา ก็ได้
Cr.http://www.sawadee.co.th/phangnga/history.html