จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม เป็นเวลา 10 วัน 10 คืน บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัด ช่วงเวลา จะจัดเป็นประจำทุก ๆ ปีในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมบริเวณสนามกีฬากลางจังหวัด งานเทศกาลไหมและประเพณีผูกเสี่ยวนี้สืบเนื่องมาจากประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอาชีพรองที่นอกเหนือจากการทำนา คือการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าต่างๆซึ่ง ทางราชการได้ให้การสนับสนุนจนจังหวัดขอนแก่นเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมที่มีชื่อ เสียงประกอบกับมีประเพณีการผูกเสี่ยวซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของภาค อีสานที่มุ่งให้คนรุ่นเดียวกันรักใคร่เป็นพี่เป็นน้องช่วยเหลือกันเรียกว่า “คู่เสี่ยว” เพื่อมุ่งส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไหมและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้ในงานจะมีขบวนแห่คู่เสี่ยวและพานบายศรีของอำเภอต่างๆ มีพิธีผูกเสี่ยวการประกวดผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน งานพาข้าวแลง(การรับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมืองอีสาน)การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการออกร้าน เทศกาลไหม ถ้าพูดถึงผ้าไหมมัดหมี่ทีสวยงาม และมีชื่อเสียงหลายๆคน คงพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าต้องซื้อจากจังหวัดขอนแก่น เพราะถือว่าเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านของผู้คนในท้องถิ่นที่สามารถ หารายได้ ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจากงานฝีมือที่เป็นผลผลิต ทางวัฒนธรรมที่สืบเนื่องมาเนิ่นนาน ผ้าไหมมัดหมี่ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่นได้แก่ผ้าไหม มัดหมี่ชนบท ชาวอำเภอชนบทส่วนใหญ่มีอาชีพทอผ้าไหม มัดหมี่เป็น อุตสาหกรรม หลักสามารถซื้อหาผ้าไหมมัดหมี่ ที่สวยงาม ได้ในตัวอำเภอ และชมนิทรรศการ เกี่ยวกับการ ผลิตผ้าไหม การจัดแสดงลวดลายผ้ามัดหมี่ ผ้าโบราณ ได้ที่ศาลา ผ้าไหมซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาพัฒนาและอนุรักษ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ประเพณีผูกเสี่ยว เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสาน ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษคำว่า "เสี่ยว" หมายถึงเพื่อนรัก เพื่อนสนิท ที่เกื้อกูลและเอื้ออาทรต่อกันร่วมสุขร่วมทุกข์ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันเหมือนญาติสนิท บางทีเรียกว่า "เพื่อนตาย" ก็มี จังหวัดขอนแก่น จึงขอเชิญชวนชาวอีสานทุกคนได้ร่วมใจผูกเสี่ยวเพื่อสร้างสัมพันธภาพแห่งความรัก ความผูกพันสืบทอดมรดกวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสานในงานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดขอนแก่น
|